คำถามคำตอบเกี่ยวกับส้มโอ

Q: พบปัญหาในการปลูกส้มโอ คือ เมื่อผลส้มโอติดลูกประมาณเท่ากำปั้นแล้ว ผลจะร่วง อยากจะทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด และมีวิธีการแก้ไขและป้องกันอย่างไร (ในการปลูกมีระบบระบายน้ำอย่างดี ใช้น้ำบาดาลรด และใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 )

A: สาเหตุที่ผลส้มโอร่วงมีหลายสาเหตุ ดังนี้
1. ต้นส้มโอติดลูกมากเกินไป ความสมบูรณ์ของต้นไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงผลส้มโอทั้งหมดได้ จึงต้องสลัดลูกทิ้งบ้างเพื่อให้มีความสมดุลย์ของต้น
2. ได้รับความเสียหายจากการทำลายของแมลง เช่น มวนเขียว ดูดกินน้ำเลี้ยงจากผลอ่อนทำให้ผลส้มโอร่วงหล่นก่อนกำหนด ผีเสื้อมวนหวาน ดูดกินน้ำหวานของผลที่เริ่มแก่จัดทำให้ผลร่วงได้ หนอนกินลูก จะชอนไชเข้าไปในผลอ่อนทำให้ผลเหี่ยวเน่าและร่วงหล่น
3. นอกนั้นเมื่อส้มขาดน้ำก็จะทิ้งลูกได้

การดูแลต้นส้มในระยะติดผลอ่อน
1. ควรปิดผลออกให้เหลืออยู่พอดีกับขนาดและความสมบูรณ์ของต้นส้มโอ
2. มีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ
3. ใส่ปุ๋ยบำรุงผลอ่อน
4. ดูแลป้องกันกำจัดโรคแมลงศัตรูส้มโอ

--------------------

Q: ผมปลูกส้มโอไว้หลายต้นในสวน ระยะนี้พบว่ามีการระบาดของโรคขี้กลากค่อนข้างรุนแรง และเมื่อระบาดที่ผลส้มโอจะทำให้ผลไม่สวย ขายได้ราคาต่ำ นอกจากนี้ หนอนชอนใบก็มักระบาดเป็นครั้งคราว ในระยะแตกใบอ่อน ผมจะมีวิธีป้องกันและกำจัดอย่างไร เพื่อให้การระบาดหมดไป

A: โรคขี้กลาก หรือแคงเกอร์ เกิดจากการเข้าทำลายของเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง อาการของโรคเมื่อเข้าทำลายจะปรากฏผลแตกสะเก็ดบนที่ใบ กิ่ง หรือผลส้มโอ แต่การเกิดที่ใบจะมีลักษณะกลมและมีวงแหวนสีเหลืองล้อมรอบ แต่หากเกิดที่กิ่งมักมีขนาดไม่แน่นอน การระบาดรุนแรงจะทำให้กิ่งแห้งและใบจะร่วงตามมา ส่วนการเกิดโรคที่ผล แผลจะตกสะเก็ดนูนและมียางไหลออกมา เชื้อโรคจะแพร่ระบาดด้วยการพัดพาของน้ำและลม การระบาดของโรคจะรุนแรงที่สุดในช่วงฤดูฝน เนื่องจากมีความชื้นสูงในบรรยากาศและในดิน วิธีป้องกันกำจัดที่ได้ผลดี เมื่อพบการระบาดระยะแรกให้ตัดกิ่งหรือส่วนอื่นๆ ที่เกิดโรคเผาทำลายทิ้งไป หากเกิดการระบาดรุนแรง จำเป็นต้องใช้สารเคมีแนะนำให้ฉีดพ่นด้วยคอปเปอร์ออกซี่คลอไรด์ 85 เปอร์เซ็นต์ ดับบลิวพี อัตรา 40-60 กรัม ต่อน้ำ 1 ปี๊บ ทุก 7-10 วัน จนอาการของโรคหมดไป และต้องเลิกฉีดพ่นก่อนเก็บผลเป็นเวลา 2 สัปดาห์ หรือใช้บอโดมิกเจอร์ ที่ได้จากส่วนผสมของจุนสีกับปูนขาว อัตรา 1:1 โดยน้ำหนัก อัตรา 300+300 กรัม ทำได้ด้วยการละลายในน้ำ ชนิดละ 2 ลิตร กวนหรือเขย่าให้ละลายจนหมด แล้วเทผสมกันลงในน้ำสะอาดอีก 16 ลิตร เขย่าให้เข้ากันอีกครั้ง ใช้พ่นทุก 7-14 วัน จนกว่าการระบาดจะหมดไปจึงให้หยุดฉีดพ่นทันที

หนอนชอนใบส้มโอ เกิดจากการเข้าทำลายใบอ่อนของส้มโอจากตัวอ่อน ผีเสื้อกลางคืนชนิดหนึ่ง ขนาดโตเต็มวัยเมื่อกางปีกออก 2 ทั้ง 8 มิลลิเมตร ลำตัวมีสีน้ำตาลปนเทา ปีกสีเทาเงินสะท้อนแสงแวววาวขอบปีกมีขนยาวปุย มีจุดสีดำข้างละจุด ตัวเมียมักวางไข่ไว้บริเวณใต้ใบของส้มโอ ต่อมาเมื่อฟักออกเป็นตัวระยะแรกมีสีเหลืองอ่อน แล้วเจาะไชเข้าไประหว่างใบส้มโอ ทำให้เกิดเป็นรอยสีขาวเป็นทางคดเคี้ยวไปมา ทั้งด้านบนและด้านล่างของใบ ต่อมาใบจะบิดเบี้ยว ประสิทธิภาพการสังเคราะห์แสงจะลดลง นอกจากนี้ รอยแผลที่เกิดจากการเจาะที่ใบ ยังทำให้เป็นช่องทางการเข้าทำลายของโรคแคงเกอร์ได้สะดวกขึ้น การระบาดของโรคจะรุนแรงในฤดูฝนระหว่างเดือนพฤษภาคมไปจนถึงต้นเดือนตุลาคม วิธีป้องกันกำจัดอย่างถูกวิธี ให้ตัดใบอ่อนที่มีแมลงเจาะเข้ากัดกินภายใน เผาทำลายทิ้งไปเพื่อลดแหล่งขยายพันธุ์ของแมลงลง แต่เมื่อพบว่ามีการระบาดรุนแรง ให้ฉีดพ่นด้วยปิโตรเลียมสเปรย์ออยล์ 83.9 เปอร์เซ็นต์ อีซี อัตรา 50-100 ซีซี ต่อน้ำ 1 ปี๊บ ในระยะแตกใบอ่อน ฉีดพ่นห่างกันทุกๆ 10 วัน จนพบว่าการระบาดลดความรุนแรงลงหรือการระบาดหมดไป และให้หยุดฉีดพ่น 1 วัน ก่อนเก็บเกี่ยวผล

--------------------

Q: ปลูกส้มโอไว้จำนวนหนึ่ง ขณะนี้กำลังเริ่มให้ผลผลิตและเนื้อผลเริ่มมีปัญหา คือเนื้อของผลส้มโอมีลักษณะเป็นเมล็ดข้าวสาร ร่วนเป็นผง รสชาติไม่ดีเลย จะมีวิธีแก้อย่างไรคะ ปัจจุบันใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยน้ำจากหอยเชอรี่ และปุ๋ยเคมี สูตร 13-13-21 ควรจะลดหรือเพิ่มอะไรอีกหรือไม่

A: เนื้อส้มโอ มีลักษณะเป็นเมล็ดข้าวสาร ฟ่าม ไม่มีรสชาติ เกิดขึ้นได้จาก 2 กรณี

กรณีแรกเกิดขึ้นเนื่องจากการให้น้ำไม่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่ติดผลแล้ว ส่วนการใช้ปุ๋ยนั้น ควรใส่ปุ๋ยคอกร่วมกับปุ๋ยเคมี นับว่าเหมาะสมดี ส้มโออายุ 1-3 ปี หรือระยะยังไม่ให้ผล แนะนำให้ใส่ปุ๋ยคอกเก่า อัตรา 1-2 ปุ้งกี๋ ต่อต้น พร้อมกับใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 อัตรา 200-300 กรัม ต่อต้น ช่วงต้นฤดูและปลายฤดูฝน แต่เมื่อส้มโอให้ผลแล้วหรือมีอายุ 4 ปีขึ้นไป ให้ใส่ปุ๋ย สูตร 15-15-15 บำรุงต้นให้แข็งแรง อัตรา 200-300 กรัม ต่อต้น เมื่อส้มโอออกดอกให้ใส่ปุ๋ย สูตร 12-24-12 หรือ 8-24-24 ในอัตราเดียวกัน เมื่อติดผลแล้ว 5-6 เดือน ให้ใส่ปุ๋ย สูตร 13-13-21 หรือ 14-14-21 อัตราเดียวกัน เพื่อเพิ่มคุณภาพของทั้งรสชาติและขนาดของผล ใส่ปุ๋ยด้วยวิธีหว่านรอบทรงพุ่ม หากเป็นไปได้ควรรดน้ำตามทันที ถ้าต้องการให้ได้ผลดียิ่งขึ้นให้ขุดร่องขนาดเล็ก กว้าง 5 และลึก 5 เซนติเมตร รอบทรงพุ่มใส่ปุ๋ยลงตามร่องและกลบดิน รดน้ำตาม จะช่วยให้ต้นส้มโอนำปุ๋ยไปใช้ได้ดียิ่งขึ้น การให้ปุ๋ยที่ถูกต้องและเหมาะสมนั้น ต้องเก็บตัวอย่างดินวิเคราะห์หาความอุดมสมบูรณ์ของดินก่อนการใช้ปุ๋ยทุกครั้ง เป็นวิธีประหยัดต้นทุนการผลิตลง ส่วนการใช้ปุ๋ยน้ำหมักก็ให้ใช้ได้ตามที่เคยใช้มาก่อน แต่ขอให้สังเกตว่าเมื่อพบต้นส้มโอสมบูรณ์ดีก็ควรงดการใช้ปุ๋ยลง มิเช่นนั้นแล้ว ส้มโอ จะเฝือใบ พลอยไม่ติดดอกผลได้ 


การเกิดเนื้อฟ่ามกรณีที่ 2 เนื่องจากการเก็บผลแก่เกินไป ทั้งนี้ควรเก็บเกี่ยวผลที่มีอายุไม่เกิน 7 เดือนครึ่งหลังจากติดผล ดังนั้น เมื่อแก้ปัญหาทั้งสองข้อนี้ได้ ส้มโอจะไม่เกิดปัญหาเนื้อเป็นเมล็ดข้าวสารและฟ่ามอีกต่อไป

--------------------

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Kasetbay.com
| Facebook_white
เบอร์โทรศัพท์: --- เบอร์แฟกซ์: ---
ประเทศไทย
Powered by Kaset Bay