การอุ้มบุญมะม่วง
ความหมายของการอุ้มบุญ
หมายถึง การฝากท้องมะม่วง
เหตุผล
1. เพราะต้นที่ถูกฝากท้อง (ต้นแม่) ไม่ให้ผลผลิต หรือให้ผลผลิตน้อยไม้คุ้มค่ากับการลงทุน
2. เป็นการเพิ่มผลผลิต โดยไม่เพิ่มพื้นที่ปลูกและใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนก็ให้ผลผลิตแล้ว
ต้นแม่ ได้แก่ เขียวเสวย หรือ เพชรบ้านลาด
ลูก (ยอดที่มาฝาก) ได้แก่ น้ำดอกไม้สีทอง น้ำดอกไม้เบอร์ 4 หรือ อกร่องพิกุลทอง เป็นต้น
ฤดูกาล การฝากท้องต้องทำในช่วงต้นหรือกลางฤดูฝน
การฝากท้องที่จะได้รับผลสำเร็จ จะต้องอาศัยปัจจัย 4 ข้อ คือ
1. ต้นแม่ต้องสมบูรณ์ มีใบแก่ เขียว เข้ม
2. ลูก (ยอด) ที่จะมาฝาก ต้องเป็นพันธุ์ดี ตลาดต้องการ มีความสมบูรณ์พร้อมที่จะแตกใบอ่อนภายใน 5 - 7 วัน และไม่มีโรคแมลงรบกวน
3. มีอุปกรณ์พร้อม มีดต้องคม พลาสติกใส ขนาดความกว้าง ประมาณ 1 นิ้วครึ่ง 1 ? นิ้ว
4. บริเวณที่จะฝากท้อง ควรอยู่สูงจากพื้นดินประมาณ 1 เมตร และควรอยู่ไม่ห่างจากง่ามของกิ่ง เพื่อใช้ง่ามสำหรับให้ช่อพาด เพื่อป้องกันกิ่งฉีกหรือปริ
วิธีการทำ
1. เลือกยอดที่สมบูรณ์ ใช้กรรไกรตัดแต่งกิ่ง ตัดให้ยาวประมาณ 3 นิ้ว ตัดใบทิ้งด้วยกรรไกร ใช้ใบมีดคม ๆ เฉือน โคนยอดให้เป็นรูปลิ่ม ความยาวจากปลายยอดถึงโคนยอด ประมาณ 1.5 นิ้ว
2. ใช้มีดคม ๆ กรีดเปลือกของต้นแม่เป็นรูปตัว T ให้มีความกว้างประมาณ 0.5 นิ้ว
ยาวประมาณ 1 นิ้ว 1 กระเบียด ถึง 1.5 นิ้ว แล้วลอกเปลือกมะม่วงจากบนลงล่าง พยายามอย่าให้เปลือกขาด
3. ใช้ยอดมะม่วงพันธุ์ดีที่ได้ทำเป็นรูปลิ่มแล้วเสียบเข้าไปบริเวณแผลตัว T
4. ใช้พลาสติกใสที่เตรียมไว้พันพอแน่นจากล่างขึ้นบน
5. หมั่นตรวจสอบว่ามีน้ำฝนขังบริเวณที่ฝากท้องหรือไม่ หากมีต้องรีบเจาะรูให้น้ำไหลออก
6. หลังจากนั้น ประมาณ 5 - 10 วัน ยอดจะเริ่มโผล่ ถ้ามีความยาวประมาณ 0.5 นิ้ว ให้รีบเจาะรูด้านบนเพื่อระบายอากาศ หรือจะเปิดพลาสติกด้านบนออกเพื่อให้ยอดใหม่ได้เจริญเติบโตต่อไป
7. หมั่นดูแลยอดอ่อนโดยการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงเพื่อป้องกันหนอนชนิดต่าง ๆ และเพลี้ยไฟมารบกวน
8. การดูแลอื่น ๆ ก็เหมือนดูแลมะม่วงโดยทั่วไป และภายในเดือน ตุลาคม - พฤศจิกายน
ก็สามารถดึงดอกได้
ข้อดีของการฝากท้อง
คดูแลง่ายให้ผลผลิตที่คุ้มค่า
เกษตรกรผู้ประสบผลสำเร็จ ในการอุ้มบุญ (ฝากท้อง)
คือ นายมนัส ใจมา เกษตรกรชาวสวนมะม่วงบ้านหัวเขา หมู่ 6 ต.บ้านมุง อ.เนินมะปราง
จ.พิษณุโลก ซึ่งปลูกมะม่วงทั้งหมด จำนวน 130 ไร่ และเป็นมะม่วงพันธุ์ดีทั้งสิ้น
หมายถึง การฝากท้องมะม่วง
เหตุผล
1. เพราะต้นที่ถูกฝากท้อง (ต้นแม่) ไม่ให้ผลผลิต หรือให้ผลผลิตน้อยไม้คุ้มค่ากับการลงทุน
2. เป็นการเพิ่มผลผลิต โดยไม่เพิ่มพื้นที่ปลูกและใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนก็ให้ผลผลิตแล้ว
ต้นแม่ ได้แก่ เขียวเสวย หรือ เพชรบ้านลาด
ลูก (ยอดที่มาฝาก) ได้แก่ น้ำดอกไม้สีทอง น้ำดอกไม้เบอร์ 4 หรือ อกร่องพิกุลทอง เป็นต้น
ฤดูกาล การฝากท้องต้องทำในช่วงต้นหรือกลางฤดูฝน
การฝากท้องที่จะได้รับผลสำเร็จ จะต้องอาศัยปัจจัย 4 ข้อ คือ
1. ต้นแม่ต้องสมบูรณ์ มีใบแก่ เขียว เข้ม
2. ลูก (ยอด) ที่จะมาฝาก ต้องเป็นพันธุ์ดี ตลาดต้องการ มีความสมบูรณ์พร้อมที่จะแตกใบอ่อนภายใน 5 - 7 วัน และไม่มีโรคแมลงรบกวน
3. มีอุปกรณ์พร้อม มีดต้องคม พลาสติกใส ขนาดความกว้าง ประมาณ 1 นิ้วครึ่ง 1 ? นิ้ว
4. บริเวณที่จะฝากท้อง ควรอยู่สูงจากพื้นดินประมาณ 1 เมตร และควรอยู่ไม่ห่างจากง่ามของกิ่ง เพื่อใช้ง่ามสำหรับให้ช่อพาด เพื่อป้องกันกิ่งฉีกหรือปริ
วิธีการทำ
1. เลือกยอดที่สมบูรณ์ ใช้กรรไกรตัดแต่งกิ่ง ตัดให้ยาวประมาณ 3 นิ้ว ตัดใบทิ้งด้วยกรรไกร ใช้ใบมีดคม ๆ เฉือน โคนยอดให้เป็นรูปลิ่ม ความยาวจากปลายยอดถึงโคนยอด ประมาณ 1.5 นิ้ว
2. ใช้มีดคม ๆ กรีดเปลือกของต้นแม่เป็นรูปตัว T ให้มีความกว้างประมาณ 0.5 นิ้ว
ยาวประมาณ 1 นิ้ว 1 กระเบียด ถึง 1.5 นิ้ว แล้วลอกเปลือกมะม่วงจากบนลงล่าง พยายามอย่าให้เปลือกขาด
3. ใช้ยอดมะม่วงพันธุ์ดีที่ได้ทำเป็นรูปลิ่มแล้วเสียบเข้าไปบริเวณแผลตัว T
4. ใช้พลาสติกใสที่เตรียมไว้พันพอแน่นจากล่างขึ้นบน
5. หมั่นตรวจสอบว่ามีน้ำฝนขังบริเวณที่ฝากท้องหรือไม่ หากมีต้องรีบเจาะรูให้น้ำไหลออก
6. หลังจากนั้น ประมาณ 5 - 10 วัน ยอดจะเริ่มโผล่ ถ้ามีความยาวประมาณ 0.5 นิ้ว ให้รีบเจาะรูด้านบนเพื่อระบายอากาศ หรือจะเปิดพลาสติกด้านบนออกเพื่อให้ยอดใหม่ได้เจริญเติบโตต่อไป
7. หมั่นดูแลยอดอ่อนโดยการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงเพื่อป้องกันหนอนชนิดต่าง ๆ และเพลี้ยไฟมารบกวน
8. การดูแลอื่น ๆ ก็เหมือนดูแลมะม่วงโดยทั่วไป และภายในเดือน ตุลาคม - พฤศจิกายน
ก็สามารถดึงดอกได้
ข้อดีของการฝากท้อง
คดูแลง่ายให้ผลผลิตที่คุ้มค่า
เกษตรกรผู้ประสบผลสำเร็จ ในการอุ้มบุญ (ฝากท้อง)
คือ นายมนัส ใจมา เกษตรกรชาวสวนมะม่วงบ้านหัวเขา หมู่ 6 ต.บ้านมุง อ.เนินมะปราง
จ.พิษณุโลก ซึ่งปลูกมะม่วงทั้งหมด จำนวน 130 ไร่ และเป็นมะม่วงพันธุ์ดีทั้งสิ้น
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง