เทคนิคการปลูกกล้วยให้ออกเครือไปในทิศทางที่ต้องการ
คงต้องขออนุญาตย้อนอดีตตัวเองเล็กน้อยครับว่า ผมมีพื้นเพเป็นชาวสวนย่านตลิ่งชัน ชานเมืองของกรุงเทพมหานครนี่เอง แม้ว่าขณะนี้จะเต็มไปด้วยถนนหนทางและบ้านเรือนเต็มไปหมดจนแทนจะมอบไม่เห็นสภาพเดิม แต่เขตนี้ก็เคยเป็นสวนผลไม้นานาชนิดมาก่อน มีทั้ง มะพร้าว กล้วย ส้ม มะละกอ มังคุด ละมุด ทุเรียน กระท้อน ขนุน มะเฟือง มะไฟ มากมายจนจาระไน ไม่หมด
สำหรับกล้วยนั้น ต้องบอกว่าเป็นพืชประจำบ้าน หรือเป็นพืชคู่กับครอบครัวคนไทย มาทุกยุคสมัย ไม่ว่าจะคนภาคไหนแทนทุกบ้านจะปลูกกันมากบ้างน้อยบ้าง ตามอัธยาศัย เคยได้ยินคนพูดว่า "ปลูกกล้วย 1 ต้น มีคุณมากล้าน 108 ประการ" คงเป็นคำเปรียบเทียบให้เห็นคุณค่ามหาศาลของกล้วยนั่นเอง
สวนที่ตลิ่งชันเป็นแบบยกร่องตามแบบสวนในที่ลุ่มภาคกลางทั่วไป ปลูกกล้วยไว้ 2 ชนิด คือกล้วยน้ำหว้า และกล้วยหอม ก็ไม่ได้สังเกตหรือใส่ใจว่า กล้วยที่ปลูกไว้นั้นจะตกเครือไปทิศทางไหน ปลูกไปแล้วก็เพียงแต่หวังให้ได้กล้วยเครือใหญ่มีลูกหลาย ๆ หวี เท่านั้น แม้จะเคยหงุดหงิดอยู่เสมอว่า กล้วยที่เราปลูกไว้ ตกเครือสะเปะสะปะ บางต้นตกเครืออยู่บนหลังร่อง ส่วนที่เป็นพื้นดิน บางต้นก็ตกเครือยื่นไปบนท้องร่อง ส่วนที่เป็นน้ำ ยากแก่การค้ำ (กล้วยหอมต้องค้ำ มิฉะนั้นต้นจะหักเมื่อกล้วยตกเครือ) ครั้นถึงเวลาที่กล้วยแก่ตัดได้ เครือบนหลังร่องนั้นตัดง่ายไม่มีปัญหา แต่เครือที่ยื่นไปในน้ำนั้นจะสร้างความยุ่งยากให้ชาวสวนพอสมควร ผมเองนั้นวันไหนต้องช่วยแม่ตัดกล้วย บอกได้เลยว่า ตกท้องร่องไม่ต่ำกว่า 5-6 ครั้ง เคยคิดเหมือนกันว่า ถ้ากล้วยทุกต้นตกเครือบนหลังร่องจะดีมาก แต่ก็ไม่เคยหาวิธีการที่จะให้มันเป็นเช่นนั้นเลย เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้รับข้อมูลจาก คุณเตือนใจ วิเศษสุวรรณ ซึ่งได้เคล็ดลับมาจาก คุณประโยชน์ เฉลิมกลิ่น อีกต่อหนึ่ง เกี่ยวกับวิธีการปลูกกล้วยให้ออกเครือไปในทิศทางที่ต้องการ คุณประโยชน์ผู้นี้เดิมคงมีอาชีพปลูกกล้วยมานาน เพราะเคล็ดลับที่เผยมานี้ บอกว่ามาจากประสบการณ์ ปัจจุบันนี้จะบังปลูกกล้วยอยู่หรือไม่ ผมไม่แน่ใจ แต่ที่ทราบมา คือ ขณะนี้เป็นผู้จัดการฟาร์มอยู่ที่ ตำบลบางเสด็จ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ซึ่งเคล็ดลับที่ว่าก็ไม่ใช้เรื่องยากเลย ไม่ต้องใช้เครื่องมือหรือวัสดุอุปกรณ์เสริมพิเศษแต่อย่างใด เพียงแต่ใช้ความสังเกตนิดหน่อยเท่านั้น คือ
"ให้พิจารณาดูหน่อกล้วยที่คุณจะปลูกเสียก่อนว่าหน่อกล้วยที่คุณมีอยู่นั้น ส่วนที่เป็นเหง้าจะมีรอยแผลที่ถูกตัดแยกมาจากเหง้าของต้นแม่ ถ้าคุณปลูกหน่อกล้วยนั้นลงไป เมื่อกล้วยโตขึ้นและตกเครือ เครือจะอยู่ในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับรอยแผลนั้นเสมอ ดังนั้น ผมคงไม่ต้องบอกคุณต่อแล้วก็ได้ว่าคุณจะปลูกกล้วย ให้เครือของมันหันไปทิศทางที่ต้องการได้อย่างไร"
สำหรับกล้วยที่ได้จากการเพาะเนื้อเยื่อ คงต้องใช้วิธีปลูกแบบวัดดวง ไปก่อนในรุ่นแรก เพราะไม่มีแผลที่เหง้าให้สังเกต แต่ถ้าท่านใดมีเคล็ดลับของการปลูกกล้วยซึ่งต้นพันธุ์จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพื่อให้กล้วยตกเครือในทิศทางที่ต้องการได้ กรุณาเขียนมาเล่าให้ฟังด้วยนะครับ ผมจะได้เผยแพร่ต่อเป็นวิทยาทาน ถึงตรงนี้ก็ต้องขอให้ความเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม จงบังเกิดแต่กล้วยของคุณตลอดไป .....
สำหรับกล้วยนั้น ต้องบอกว่าเป็นพืชประจำบ้าน หรือเป็นพืชคู่กับครอบครัวคนไทย มาทุกยุคสมัย ไม่ว่าจะคนภาคไหนแทนทุกบ้านจะปลูกกันมากบ้างน้อยบ้าง ตามอัธยาศัย เคยได้ยินคนพูดว่า "ปลูกกล้วย 1 ต้น มีคุณมากล้าน 108 ประการ" คงเป็นคำเปรียบเทียบให้เห็นคุณค่ามหาศาลของกล้วยนั่นเอง
สวนที่ตลิ่งชันเป็นแบบยกร่องตามแบบสวนในที่ลุ่มภาคกลางทั่วไป ปลูกกล้วยไว้ 2 ชนิด คือกล้วยน้ำหว้า และกล้วยหอม ก็ไม่ได้สังเกตหรือใส่ใจว่า กล้วยที่ปลูกไว้นั้นจะตกเครือไปทิศทางไหน ปลูกไปแล้วก็เพียงแต่หวังให้ได้กล้วยเครือใหญ่มีลูกหลาย ๆ หวี เท่านั้น แม้จะเคยหงุดหงิดอยู่เสมอว่า กล้วยที่เราปลูกไว้ ตกเครือสะเปะสะปะ บางต้นตกเครืออยู่บนหลังร่อง ส่วนที่เป็นพื้นดิน บางต้นก็ตกเครือยื่นไปบนท้องร่อง ส่วนที่เป็นน้ำ ยากแก่การค้ำ (กล้วยหอมต้องค้ำ มิฉะนั้นต้นจะหักเมื่อกล้วยตกเครือ) ครั้นถึงเวลาที่กล้วยแก่ตัดได้ เครือบนหลังร่องนั้นตัดง่ายไม่มีปัญหา แต่เครือที่ยื่นไปในน้ำนั้นจะสร้างความยุ่งยากให้ชาวสวนพอสมควร ผมเองนั้นวันไหนต้องช่วยแม่ตัดกล้วย บอกได้เลยว่า ตกท้องร่องไม่ต่ำกว่า 5-6 ครั้ง เคยคิดเหมือนกันว่า ถ้ากล้วยทุกต้นตกเครือบนหลังร่องจะดีมาก แต่ก็ไม่เคยหาวิธีการที่จะให้มันเป็นเช่นนั้นเลย เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้รับข้อมูลจาก คุณเตือนใจ วิเศษสุวรรณ ซึ่งได้เคล็ดลับมาจาก คุณประโยชน์ เฉลิมกลิ่น อีกต่อหนึ่ง เกี่ยวกับวิธีการปลูกกล้วยให้ออกเครือไปในทิศทางที่ต้องการ คุณประโยชน์ผู้นี้เดิมคงมีอาชีพปลูกกล้วยมานาน เพราะเคล็ดลับที่เผยมานี้ บอกว่ามาจากประสบการณ์ ปัจจุบันนี้จะบังปลูกกล้วยอยู่หรือไม่ ผมไม่แน่ใจ แต่ที่ทราบมา คือ ขณะนี้เป็นผู้จัดการฟาร์มอยู่ที่ ตำบลบางเสด็จ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ซึ่งเคล็ดลับที่ว่าก็ไม่ใช้เรื่องยากเลย ไม่ต้องใช้เครื่องมือหรือวัสดุอุปกรณ์เสริมพิเศษแต่อย่างใด เพียงแต่ใช้ความสังเกตนิดหน่อยเท่านั้น คือ
"ให้พิจารณาดูหน่อกล้วยที่คุณจะปลูกเสียก่อนว่าหน่อกล้วยที่คุณมีอยู่นั้น ส่วนที่เป็นเหง้าจะมีรอยแผลที่ถูกตัดแยกมาจากเหง้าของต้นแม่ ถ้าคุณปลูกหน่อกล้วยนั้นลงไป เมื่อกล้วยโตขึ้นและตกเครือ เครือจะอยู่ในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับรอยแผลนั้นเสมอ ดังนั้น ผมคงไม่ต้องบอกคุณต่อแล้วก็ได้ว่าคุณจะปลูกกล้วย ให้เครือของมันหันไปทิศทางที่ต้องการได้อย่างไร"
สำหรับกล้วยที่ได้จากการเพาะเนื้อเยื่อ คงต้องใช้วิธีปลูกแบบวัดดวง ไปก่อนในรุ่นแรก เพราะไม่มีแผลที่เหง้าให้สังเกต แต่ถ้าท่านใดมีเคล็ดลับของการปลูกกล้วยซึ่งต้นพันธุ์จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพื่อให้กล้วยตกเครือในทิศทางที่ต้องการได้ กรุณาเขียนมาเล่าให้ฟังด้วยนะครับ ผมจะได้เผยแพร่ต่อเป็นวิทยาทาน ถึงตรงนี้ก็ต้องขอให้ความเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม จงบังเกิดแต่กล้วยของคุณตลอดไป .....
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
