ปลูกข้าวเพื่อจำหน่ายพันธุ์อีกทางเลือกของชาวนาไทย

วงจรการทำนาของชาวนาหลังการเก็บเกี่ยวข้าวแล้วจะต้องเก็บพันธุ์ข้าวไว้ส่วนหนึ่งเพื่อใช้สำหรับการเพาะปลูกในฤดูกาลผลิตต่อไป และจะทำในลักษณะเช่นนี้อย่างต่อเนื่องตลอดมาทุกปี ซึ่งการเก็บพันธุ์ข้าวปลูกในไร่นาไว้ใช้หมุนเวียนต่อเนื่องเกิน 3 ปี พบว่าจะทำให้เมล็ดข้าวมีโอกาสเสื่อมคุณภาพสูง เปอร์เซ็นต์การงอก ผลผลิตต่อไร่ลดลง และเมื่อได้ผลผลิตออกมาจะพบว่าเมล็ดข้าวหัก รูปร่างไม่สวย หุงไม่สุกหรือสุกไม่สม่ำเสมอ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ชาวนาจำหน่ายข้าวได้ในราคาต่ำ ประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่องเรื่อยมา

เกี่ยวกับเรื่องนี้เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในปี 2548-2549 ทางกรมวิชาการเกษตร โดยศูนย์วิจัยข้าว ได้มีโครงการเพื่อส่งเสริมให้ชาวนาใช้พันธุ์ข้าวปลูกในลักษณะ หมุนเวียนเพื่อปลูกในนาที่ไม่เกิน 3 ปีฤดูกาลเพาะปลูก เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อราคาการจำหน่ายดังที่กล่าวมาข้างต้นอันทำให้ชาวนามีรายได้ลดลง ประสบปัญหาขาดทุนซ้ำซากทุกปี

สำหรับแนวทางการส่งเสริมนั้น นายฉกรรจ์ แสงรักษาวงษ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร บอกว่า จะเร่งทำการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรที่มีความสนใจหันมาเข้าร่วมโครงการในการผลิตพันธุ์ข้าว เพื่อจำหน่ายให้กับชาวนาและหน่วยงาน ราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมั่นใจว่ารายได้จากการจำหน่ายพันธุ์เพื่อการเพาะปลูกนี้จะไม่ต่ำกว่าหรืออาจสูงกว่าการจำหน่ายข้าวในรูปแบบอื่น ๆ ที่ผ่านมา เนื่องจากหลังจากที่ชาวนาผู้สนใจเข้าร่วมโครงการแจ้งความประสงค์กับทางกรมวิชาการเกษตร หรือศูนย์วิจัยข้าวในพื้นที่แล้ว ทางกรมฯ หรือศูนย์จะส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจไร่นา ตรวจสอบลักษณะพันธุ์ข้าวในไร่นา ผลผลิตต่อไร่และสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยพันธุ์ข้าวที่ชาวนาจะปลูกเพื่อจำหน่ายนั้นจะไม่มีการจำกัดว่าต้องเป็นข้าวชนิดใดชนิดหนึ่ง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำในการบำรุงดูแลรักษาข้าวในระหว่างการเพาะปลูกเพื่อให้ได้ข้าวที่ตรงตามลักษณะพันธุ์ และมีคุณภาพตรงกับความต้องการของตลาด ซึ่งพันธุ์ข้าวที่ได้นั้น เกษตรกรสามารถจำหน่ายให้ทั้งกับชาวนาโดยตรงและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปเพาะปลูกและขยายพันธุ์เพิ่มปริมาณต่อไป

ทั้งนี้ที่ผ่านมาหลังเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จชาวนาจะเก็บพันธุ์ข้าวของตนไว้ใช้ในฤดูกาลเพาะปลูกต่อไป ซึ่งจะทำลักษณะเช่นนี้แบบซ้ำซากทุกปี โดยไม่ทราบว่าเมื่อเกิน 3 ปีแล้วแต่ยังใช้เมล็ดพันธุ์จากแหล่งผลิตเดิมจะทำให้ผลผลิตต่อไร่นั้นลดลง ขณะเดียวกันเมล็ดข้าวก็จะลีบแบน หุงไม่สุก และขายได้ในราคาต่ำ ทำให้ขาดทุนโดยไม่รู้ตัว ด้วยเหตุนี้ทางกรมวิชาการเกษตร จึงต้องการให้ชาวนาหันมาปรับวิธีการในการเพาะ ปลูกใหม่ โดยไม่ใช้พันธุ์ข้าวที่เก็บมาจากไร่นาของตนแล้วหมุนเวียนมาปลูกซ้ำนานเกินกว่า 3 ปี โดยจะสนับสนุนให้ชาวนาที่มีความพร้อมมาเข้าร่วมโครงการคัดเลือกพันธุ์และพื้นที่ปลูกข้าวเพื่อขายพันธุ์ข้าวอยู่แล้วมาร่วมโครงการ เพื่อผลิตพันธุ์ข้าวที่มีคุณลักษณะที่ตรงกับสายพันธุ์จำหน่ายให้กับชาวนาโดยทั่วไป และเนื่องจากการปลูกข้าวเพื่อจำหน่ายพันธุ์จำต้องอาศัยการดูแลรักษามากเป็นพิเศษจึงทำให้ราคาการจำหน่ายสูงกว่าข้าวที่ปลูกเพื่อการบริโภคทั่วไป

อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวนี้ของ กรมวิชาการเกษตร ยังไม่เป็นที่รู้จักของเกษตรกรมากนัก ในขณะนี้รวมทั้งเกษตรกรเองอาจยังไม่เชื่อมั่นว่าหากหันมาปลูกข้าวเพื่อจำหน่ายพันธุ์ให้กับชาวนาหรือหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องแล้วจะทำให้จำหน่ายได้ในราคาที่ดีกว่าการผลิตข้าวเพื่อการบริโภค กรมวิชาการเกษตร จึงยืนยันมาว่าการนำพันธุ์ข้าวจากไร่นามาปลูกซ้ำกันนาน เกิน 3 ปีจะทำให้ผลผลิตต่อไร่ลดลง เมล็ดข้าวไม่สวย หุงไม่สุกหรือสุกไม่สม่ำเสมอ และจำหน่ายได้ในราคาต่ำนั้นเป็นความจริงจึงทำให้ในอนาคตความต้องการพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพดีจะเพิ่มสูงขึ้น และเป็นที่ต้องการของชาวนาโดยทั่วไปอย่าง   แน่นอน

โครงการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืช เพื่อจำหน่ายเมล็ดพันธุ์อย่างเดียวนั้น ที่ผ่านมาล้วนประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เช่นการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกถั่วเหลืองเพื่อจำหน่ายพันธุ์ให้เกษตรกรรายอื่นนำไปปลูกต่อของช่วงที่ผ่านมาเป็นต้น แต่สำหรับพันธุ์ข้าวนั้นครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก

สำหรับเกษตรกรที่สนใจจะเข้าร่วมโครงการปลูกข้าวเพื่อจำหน่ายพันธุ์ให้กับชาวนาหรือหน่วยงานราชการเพื่อนำไปเพาะปลูกขยายพันธุ์นั้นสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์วิจัยข้าวในพื้นที่ หรือที่กรมวิชาการเกษตร โทรศัพท์ 0-2579-0151-8 ในวันและเวลาราชการ.

พีรศิษฐุ์   สมแก้ว

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Kasetbay.com
| Facebook_white
เบอร์โทรศัพท์: --- เบอร์แฟกซ์: ---
ประเทศไทย
Powered by Kaset Bay