ปรับที่นา หันมาทำสวนส้มเขียวหวาน

เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดพิจิตร ส่วนใหญ่ยึดอาชีพทำนาปลูกข้าวเป็นหลัก แต่สำหรับ นายบำรุง อ่อนบุญ และ นางเสน่ห์ อ่อนบุญ สองสามีภรรยา แห่งบ้านหนองหลุม หมู่ที่ 5 ตำบลหนองหลุม อำเภอวชิรบารมี จังหวัดพิจิตร ทั้งคู่กลับเปลี่ยนจากการปลูกข้าวขายในอดีต เนื่องจากเล็งเห็นว่า ในพื้นที่ดังกล่าวมีน้ำท่วมขังทุกปี ที่ดินจึงถูกทิ้งไว้ว่างเปล่า โดยไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด จึงหันมาทำสวน "ส้มเขียวหวาน" เลี้ยงชีพมาตั้งแต่ปี 2543

นายบำรุง กล่าวว่า การปลูกส้มเขียวหวานในสภาพดินเหนียว ซึ่งเป็นที่นาเก่าอย่างนี้ ให้ปรับรูปแปลงนาใหม่ โดยขุดคูน้ำ แล้วเอาดินจากคูที่ขุดขึ้นมาถมเป็นคันร่องสวน คือ ยกร่องให้มีลักษณะหลังเต่า มีน้ำล้อมรอบร่อง ปลูกต้นส้มเขียวหวานตรงกลางร่อง ปรับพื้นที่นาสำหรับปลูกส้มเขียวหวาน โดยขุดดินยกร่องขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 120 เมตร ระหว่างร่องมีคูน้ำกว้าง 1.50 เมตร ลึก 1.50 เมตร เมื่อปรับรูปแปลงนาเสร็จแล้วก็จะปลูกหญ้าแฝก เพื่อป้องกันดินริมคันร่องพังทลายด้วย

ปัญหาที่พบในสวนส้ม ดินมีค่าความเป็นด่างสูง จึงปรับปรุงดินด้วยการปลูกถั่วดำเป็นพืชปุ๋ยสด ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก รอบโคนต้นไม้ พรวนดิน จากนั้นใส่ปุ๋ยหมักรองก้นหลุมแล้วโรยดินทับ ใส่กากหยาบจำพวก มูลสัตว์ และเปลือกถั่วต่างๆ บริเวณโคนต้นปีละ 2 ครั้ง ทำให้ดินร่วนซุยขึ้น การใส่กากหยาบแต่ละครั้งเกษตรกรเน้นให้ซึมลงในร่องน้ำ เพื่อปรับสภาพน้ำให้มีค่าเป็นกลางก่อนนำไปรดต้นส้ม นำกิ่งพันธุ์ส้มลงปลูกแล้วกลบด้วยดิน ระยะห่างระหว่างต้น 3 เมตร ร่องละ 30-40 ต้น รดน้ำ 2 วัน ต่อครั้ง ประมาณ 30 เดือน ต้นส้มเขียวหวานก็จะเจริญเติบโตและเริ่มออกดอก ซึ่งระหว่างที่รอส้มให้ผลผลิต บริเวณพื้นร่องที่ว่างระหว่างต้นส้มได้ปลูกชะอม กล้วยแซมด้วย ซึ่งช่วยให้มีรายได้เสริมสัปดาห์ละกว่า 1,000 บาท

ขั้นตอนการปลูกนั้นให้จัดระบบรากต้นส้มก่อนนำลงหลุมปลูกในดิน โดยทำให้รากแผ่ออก เพราะเชื่อมั่นว่า ถ้าปลูกทันทีที่ย้ายออกจากถุงชำโดยไม่จัดราก ก็จะทำให้รากขดงอ ดูดธาตุอาหารต่างๆ ในดินไม่ดีพอ ต้นเจริญเติบโตไม่เต็มที่ เกษตรกรปลูกต้นส้มโดยใช้ระยะปลูก 5 X 5 เมตร ระยะห่างมากกว่าของเกษตรกรรายอื่นๆ ทำให้ทรงพุ่มไม่ทึบ แสงแดดส่องได้ทั่วทั้งต้น ช่วยลดปัญหาศัตรูพืชระบาดลงได้

เมื่อต้นส้มอายุ 8 เดือน ก็เริ่มติดผล เกษตรกรริดผลทิ้งทั้งหมด จนกระทั่งต้นส้มอายุ 2 ปีขึ้นไป จึงไว้ผลรุ่นละ 30 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนผลแต่ละรุ่น เพื่อไม่ให้ต้นทรุดโทรม เกษตรกรเก็บผลส้มจำหน่ายเมื่อผลอายุประมาณ 10-11 เดือน ใช้ระยะเวลามากกว่าเกษตรกรรายอื่นๆ ทั้งนี้ เพื่อให้รสชาติส้มหวานอมเปรี้ยว ตรงกับที่ตลาดต้องการ และเก็บผลผลิตไว้รอจำหน่ายได้นานกว่าไม่ปัญหาสารเคมีตกค้าง จำหน่ายผลผลิตได้อย่างต่อเนื่อง ราคาดีทั้งปี

นายบำรุง บอกว่า ช่วงที่ส้มเขียวหวานออกดอกต้องฉีดพ่นฮอร์โมนปุ๋ยอินทรีย์น้ำ (พด.2) และฉีดสารไล่แมลง (พด.5) ผลิตภัณฑ์จากกรมพัฒนาที่ดิน ใช้บำรุงดอกเพื่อให้ติดผล 7-10 วัน ต่อครั้ง โดยจะใช้เรือติดเครื่องยนต์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้น้ำ พร้อมกับฉีดพ่นฮอร์โมนปุ๋ยอินทรีย์น้ำ (พด.2) ส่วนน้ำให้รดเฉพาะในช่วงที่ต้นส้มเริ่มออกดอกไปจนถึงเก็บผลส้มได้ รวมประมาณ 8-10 เดือน และใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 8-24-24 ใส่ที่โคนต้นเพื่อเพิ่มความหวาน และหลังจากที่เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ต้องตัดตกแต่งกิ่งและบำรุงรักษาต้นส้ม เนื่องจากถ้าเอาใจใส่อย่างดี ส้มก็จะสามารถให้ผลผลิตได้นาน 8-10 ปี

สำหรับการเก็บเกี่ยวผลผลิตส่งขายให้แก่พ่อค้าคนกลาง ราคากิโลกรัมละ 15-25 บาท ตามขนาดและคุณภาพของผลผลิตส้ม นับว่าเป็นรายได้ดีทีเดียว ไม่เพียงแต่ปลูก "ส้มเขียวหวาน" ขายเท่านั้น แต่ในพื้นที่ส่วนที่เป็นร่องน้ำในไร่ส้ม ทั้ง "นายบำรุง และ นางเสน่ห์" ยังนำปลานิล ปลาสวาย มาปล่อยในร่องสวน มีรายได้อีกทางหนึ่งด้วย

ปัจจุบันสวนส้มของ นายบำรุง อ่อนบุญ ได้รับการคัดเลือกจากหน่วยงานราชการในจังหวัดพิจิตรให้เป็นแปลงสาธิตและจุดการเรียนรู้โครงการจัดการดินและน้ำแบบไร่นาสวนผสม และเป็นประธานกลุ่มผู้ปลูกส้มเขียวหวาน ตำบลหนองหลุม อีกด้วย

ประกิต เพ็งวิชัย

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Kasetbay.com
| Facebook_white
เบอร์โทรศัพท์: --- เบอร์แฟกซ์: ---
ประเทศไทย
Powered by Kaset Bay